โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในออฟฟิศหรือทำงานที่ต้องอยู่กับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน โรคนี้เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง จนทำให้กล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ
อาการของโรคออฟฟิศซินโดรม แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ
- อาการทางกล้ามเนื้อและเส้นประสาท อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง แขน ข้อมือ
- กล้ามเนื้อเกร็งและตึง
- ชาหรือเสียวบริเวณแขนหรือมือ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- อาการทางระบบประสาทอัตโนมัติ อาการที่พบได้ ได้แก่
- เวียนศีรษะ มึนงง
- หูอื้อ
- ตาพร่า
- เหงื่อออก
อาการของโรคออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือรุนแรงก็ได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระยะเวลาในการเกิดอาการ หากไม่ได้รับการรักษาหรือป้องกัน อาการอาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง
สาเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรม
สาเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรม เกิดจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
- ท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งหลังค่อม การก้มหน้ามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ การนั่งไขว่ห้าง เป็นต้น
- การใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ เช่น การพิมพ์งาน การคลิกเมาส์ การยกของ เป็นต้น
- ความเครียด และความเหนื่อยล้า
- สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ อากาศไม่ถ่ายเท เป็นต้น
การป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม
การป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมสามารถทำได้ ดังนี้
- ปรับท่าทางการทำงานให้ถูกต้อง โดยยึดหลัก ดังนี้
- นั่งหลังตรง ไหล่ผ่อนคลาย
- จอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตา
- ขาตั้งโต๊ะให้ระดับเหมาะสม
- วางแป้นพิมพ์และเมาส์ให้อยู่ในระยะที่เอื้อมถึงได้สะดวก
- ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ โดยลุกขึ้นเดินไปมาทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- ลดความเครียด โดยหากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อผ่อนคลาย
- สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสม เช่น ปรับแสงสว่างให้เพียงพอ อากาศถ่ายเท เป็นต้น
หากมีอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง
เรียเรียงโดย: https://galaxy-7.net/