สถานที่เที่ยวแปลกๆ ตั้งแต่ภูเขาประหลาดยันหลุมใต้น้ำขนาดยักษ์ เกาะพิศวงเหมือนในหนังไซไฟ มีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลยดีกว่า
อันดับที่ 10
ถ้ำเซินด่อง กว่างบินห์ ประเทศเวียดนามขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/dyx5J1
สถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ในโลกไม่ไกลบ้านจากเราสัคเท่าไหร่ ณ ถ้ำมหัศจรรย์ที่ขึ้นว่าเป็นดินแดนใต้พิภพที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2009 จากการสำรวจพบว่าถ้ำแห่งนี้มีอายุกว่า 2-3 ล้านปี และได้จัดอันดับให้เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สูงและกว้างพอที่จะสร้างตึก 40 ชั้นและอำเภอได้สักอำเภอ แถมให้ด้วยว่าเครื่องบินไซส์โบอิ้ง 747 บินเข้ามาได้สบายๆ แค่นั้นเอง! นอกจากนั้นแล้ว ภายในโพรงถ้ำก็มีความสวยงามและเป็นที่อยู่ของสัตว์ขนาดเล็กและหายากและพืชโบราณหลากหลายพันธุ์ ว่ากันว่าบรรยากาศภายในถ้ำเสมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกยุคดึกดำบรรพ์เลยน่ะจะบอกให้
อันดับที่ 9
หาดสีแดง ปานจิน ประเทศจีน
ขอบคูณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/rCnHYY
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกที่สุดในโลกในทวีปเอเชีย หาดแห่งนี้แท้จริงแล้วไม่ใช่ชายหาดติดทะเลที่ไหน แต่เป็นทุ่งสาหร่ายสีแดงสดปกคลุมพื้นที่กว้างกว่า 51 ตารางไมล์ในเขตลุ่มน้ำของเมืองปานจิน จัดเป็นบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่ของนกน้ำกว่า 260 พันธุ์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ร่วม 400 ประเภท โดยเฉพาะนกกระเรียนต่างๆ ที่มีอยู่หนาแน่นจนเป็นที่รู้จักกันว่าหาดแห่งนี้เป็น “บ้านของนกกระเรียน” ทั้งนี้เพื่อเหตุผลในการรักษาสมดุลทางระบบนิเวศวิทยาของที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมความงามของหาดแห่งนี้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
อันดับที 8
หุบเขาช็อกโกแลตแห่งโบโฮล ประเทศฟิลิปปินส์
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/41w251
กลุ่มภูเขากว่า 1,700 ลูกที่เกิดตามธรรมชาติ แต่กลับมีรูปร่างมนและมีสัดส่วนไล่ๆ กันประหนึ่งมนุษย์สร้าง คล้ายกับภาพวาดภูเขาของเด็กๆ ที่ไล่เรียงกันเป็นแนว ตามคำบอกเล่าในนิทานท้องถิ่น (ซึ่งมีอยู่หลายตำนาน) เล่ากันว่าภูเขาเหล่านี้เกิดจากการปั้นดินและปาใส่กันของยักษ์เด็ก 2 ตน หลังจากยักษ์น้อยเลิกทะเลาะและเลิกเล่นกันแล้วก็ลืมเกลี่ยดินที่ปาใส่กันให้ราบเรียบ เลยเป็นที่มาของกลุ่มภูเขากว่าพันแห่งที่นี่ โดยลักษณะทั่วไปนั้นภูเขาเหล่านี้เป็นภูเขาทุ่งหญ้า ซึ่งในช่วงหน้าแล้ง หญ้าเหล่านี้จะกลายเป็นสีน้ำตาลจนเป็นที่มาของชื่อช็อกโกแลตฮิลล์ นอกจากจะเป็นสถานที่เที่ยวแปลกๆ ยอดฮิตของเกาะโบโฮลแล้ว ก็ยังเป็นเขตมรดกโลกด้านธรณีวิทยาอีกด้วย
อันดับที่ 7
ทะเลสาบฮิลเลอร์ เกาะมิดเดิล เอสเพอแรนซ์ ประเทศออสเตรเลีย
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/NTHNuD
หนึ่งในสถานที่แปลกที่สุดในโลกในเขตดินแดนซีกโลกใต้ ทะเลสาบสีชมพูบนเกาะปะการังขนาดเล็กกลางทะเล ทะเลสาบแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1802 ไฮไลท์เด่นของทะเลสาบฮิลเลอร์ก็คือ สีของน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีชมพูตลอดปี ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำพวกแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในก้อนเกลือที่รวมตัวกันในทะเลสาบจนเป็นสีชมพูเข้ม แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือ ถึงแม้ว่าจะตักน้ำในทะเลสาบออกมาใส่ภาชนะอื่น น้ำที่ตักออกมาก็ยังคงเป็นสีชมพูเช่นเดียวกันกับในทะเลสาบ
อันดับที่ 6
เกาะโซโครตรา ประเทศเยเมน
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/JTVaLo
เกาะที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในเขตประเทศเยเมน ตั้งอยู่ในเขตทะเลอะราเบียน (Arabian Sea) เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องต้นไม้รูปร่างประหลาดหลายพันธุ์ที่มีรูปทรงแปลกๆ เหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟ (Sci-Fi) โดยมีทั้งพันธุ์ไม้ที่มีเฉพาะถิ่นที่นี่และพันธุ์ไม้โบราณยุคดึกดำบรรพ์ที่หายากมากๆ เช่น ต้นเลือดมังกร (Twisted Dragon’s Blood Tree) และต้นขวด (Bulbous Bottle Tree) นอกจากนั้นสภาพพื้นดินในบริเวณที่มีต้นไม้ประหลาดเหล่านี้ขึ้นอยู่นั้นก็มีสภาพตะปุ่มตะป่ำด้วยก้อนดินและก้อนหิน และยังมีพืชจำพวกตะบองเพชร ชวนชมยักษ์ ต้นไม้แปลกๆ รวมไปถึงสัตว์เฉพาะถิ่นอีกจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวสุดแปลกขนาดนี้จะพลาดทะเบียนมรดกโลกไปได้อย่างไร
อันดับที่ 5
บ่อน้ำแร่และโคลนเดือดปามุกกาเล ปามุกกาเล ประเทศตุรกี
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/9HJNan
เขตมรดกโลกและสถานที่แปลกๆ ที่ต้องไปเยือนในประเทศตุรกีที่เป็นอ่างน้ำแร่ธรรมชาติริมเขาขั้นบันไดโอบล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม โดยลักษณะของอ่างน้ำแร่ริมเขาหินปูนแห่งนี้จะมีสีขาวโพลนไปทั้งเขา อีกทั้งบ่อน้ำแร่ริมเขาบ่อต่างๆ ก็จะเรียงลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ มีความสวยงามเกินบรรยาย แถมน้ำแร่เหล่านี้ก็สามารถลงไปแช่ตัวได้อีกด้วย แน่นอนว่าปามุกกาเลย่อมเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญที่ในแต่ละปีนั้นมีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 2 ล้านคน อีกทั้งในระยะทางไม่ไกลกันก็ยังเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโรมันโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) อีกด้วย
อันดับที่ 4
โรงแรมน้ำแข็ง จุกกาสจาร์วี ประเทศสวีเดน
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/GSjX8u
โรงแรมน้ำแข็งอันโด่งดังของสวีเดน สถานที่ท่องเที่ยวสุดแปลกในยุโรปที่เป็นโรงแรมน้ำแข็งแห่งแรกในโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1989 โดยเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในโรงแรมนี้จะทำขึ้นจากการแกะน้ำแข็งล้วนๆ ในแต่ละปีโรงแรมจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ในช่วงฤดูหนาวปลายปีราวเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งการออกแบบแกะสลักและก่อสร้างโรงแรมนั้นจะได้ความร่วมมือจากศิลปินจากรอบโลกที่มาช่วยกันออกแบบตีมในปีต่างๆ ให้สวยงามแตกต่างกันไป ใครอยากไปพิสูจน์ประสบการณ์นอนเตียงน้ำแข็งกันในปีนี้คงต้องรีบวางแผนจองตั๋วกันได้แล้วนะจ๊ะ
อันดับที่ 3
เอนเทโลปแคนยอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/bLw7cz
อันดับที่ 2
เดอะเกรตบลูโฮล เบลิซซิตี้ ประเทศเบลิซ
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/aTCpRp
สถานที่แปลกในโลกใต้ทะเล หลุมใต้สมุทรขนาดใหญ่ที่เกิดจากการยุบตัวของพื้นโลก โดยหลุมแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับแนวปะการังไลท์เฮ้าส์ (Lighthouse Reef) เป็นส่วนหนึ่งของเขตมรดกโลกแนวปะการังเบลิซ ลักษณะของหลุมแห่งนี้มีรูปร่างเป็นอ่างวงกลมสีฟ้าเข้มขนาดใหญ่กลางทะเลที่ล้อมรอบด้วยแนวปะการังที่เห็นชัดโดดเด่นและสวยงามมาก เดอะเกรตบลูโฮลเป็นจุดน้ำลึกยอดฮิตติดอันดับท็อป 10 ของโลก โดยมีความลึกร่วม 125 เมตรและเป็นหลุมใต้ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้หลุมแห่งนี้มีชั้นหินปูนใต้ทะเลและถ้ำใต้น้ำ จัดเป็นเขตธรรมชาติที่สมบูรณ์ เป็นที่อาศัยของปลาทะเลพันธุ์ต่างๆ มากมาย
อันดับที่ 1
ทะเลสาบวงกลม โอโซยุส ประเทศแคนาดา
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/V9mL1d
ทะเลสาบที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุจนมีมวลหนาแน่นและเกิดเป็นลวดลายวงกลมจำนวนมาก ชาวเมืองเรียกกันว่าคลีลุก (Khiluk) ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวเมืองท้องถิ่น ที่น่าสนใจ คือ จากการสำรวจพบว่าวงกลมแต่ละวงนั้นมีการรวมตัวของแร่ธาตุที่ต่างๆ กันไปและมีคุณสมบัติในการรักษาโรคที่ต่างกันไปอีกด้วย นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แปลกและสวยงาม ทั้งนี้ไม่สามารถเข้าไปชมในระยะประชิดได้ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล มีการตั้งรั้วล้อมรอบบริเวณและมีจุดชมวิวเฉพาะที่ให้ได้แวะเข้าไปชมเท่านั้น
เป็นไงกันบ้างๆเพื่อนอยากไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง อย่าลืมมาบอกเอารูปสวยมาฝากกันเด้อ