โจ๊กเกอร์ บทสุดอาถรรพ์
เป็นที่รู้กันในวงการบันเทิงว่า บทบาท “โจ๊กเกอร์” นั้นเป็นหนึ่งในบทบาทสุดซับซ้อนและต้องอาศัยประสบการณ์ในการแสดงสูง ถึงจะสามารถถ่ายทอดตัวละครออกมาได้อย่างสมบูรณ์ และสำหรับโจ๊กเกอร์คนล่าสุดอย่าง จาเร็ด เลโต้ นักแสดงที่มีดีกรีออสการ์ 1 รางวัลก็ฝากฝีมือถ่ายทอดความเป็น “โจ๊กเกอร์” ใน Suicide Squad ได้อย่างน่าประทับใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และความเข้าถึงบทบาทตรงนี้มีมากถึงขั้นที่ว่าแม้อยู่ในกองก็ยังไม่สามารถถอดคาแรกเตอร์ของตัวละครออกไปได้เลย ซึ่งมันก็คงไม่น่าห่วงเท่าไร ถ้าหากบทที่ว่าไม่ใช่วายร้ายจอมวิกลจริตแห่ง DC Comics
จาเร็ด เลโต้ นักแสดงผู้รับบท “โจ๊กเกอร์” คนล่าสุด เคยให้สัมภาษณ์กับทาง Cinemablend ไว้ว่า “ผมลงลึกไปกับบทบาทค่อนข้างมาก มันเป็นโอกาสที่พิเศษและผมไม่คาดฝันเลยว่าจะได้ทำมัน มันสนุกมากในการเล่นเกมจิตวิทยา แต่ในขณะเดียวกันมันก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเกินบรรยายทีเดียว”
ไม่ใช่แค่ในจอที่ดูสะพรึงบาดจิตเท่านั้น ดูเหมือนว่านอกจอ จาเร็ด เลโต้ ก็ไม่สามารถถอดตัวเองออกจากบทนี้ได้ เพราะเขายังเคยเรียก จิม แพททริค นักแสดงผู้รับบทสมุนของเขาให้ไปทำภารกิจสุดแปลกประหลาดระหว่างวันด้วย
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/cnan2M
หรือแม้แต่ส่งของขวัญสุดสยองให้เพื่อนนักแสดงอาทิ ส่งหนูเป็นๆให้ มาร์โกต์ ร็อบบี้, ส่งลูกกระสุนให้ วิล สมิธ, ส่งนิตยสารเพลย์บอยเลอะๆให้กับ อะดีเวล อะคินโนเย-แอกบาเจ (คิลเลอร์ คร็อก), ส่งหมูตายแล้วให้ วิโอล่า เดวิส
หรือแม้แต่ถุงยางใช้แล้วไปให้บรรดานักแสดงที่เหลือด้วย จนนักแสดงหลายคนกลัวที่จะพูดคุยกับเขา ทำให้ตัว จาเร็ด เลโต้ เอง เขาสู่สภาวะคล้ายกับตัวละครโจ๊กเกอร์คือ แยกตัวออกจากสังคม และความโดดเดี่ยวตรงนั้นทำให้ตัวละครน่ากลัวยิ่งขึ้น และนั่นอาจจะหมายถึงประสบการณ์การแสดงที่เจ็บปวดที่จาเร็ดได้บอกไปนั่นเอง
ไม่ใช่แค่ในจอที่ดูสะพรึงบาดจิตเท่านั้น ดูเหมือนว่านอกจอ จาเร็ด เลโต้ ก็ไม่สามารถถอดตัวเองออกจากบทนี้ได้ เพราะเขายังเคยเรียก จิม แพททริค นักแสดงผู้รับบทสมุนของเขาให้ไปทำภารกิจสุดแปลกประหลาดระหว่างวันด้วย
หรือแม้แต่ส่งของขวัญสุดสยองให้เพื่อนนักแสดงอาทิ ส่งหนูเป็นๆให้ มาร์โกต์ ร็อบบี้, ส่งลูกกระสุนให้ วิล สมิธ, ส่งนิตยสารเพลย์บอยเลอะๆให้กับ อะดีเวล อะคินโนเย-แอกบาเจ (คิลเลอร์ คร็อก), ส่งหมูตายแล้วให้ วิโอล่า เดวิส หรือแม้แต่ถุงยางใช้แล้วไปให้บรรดานักแสดงที่เหลือด้วย
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/RiaZuH
จนนักแสดงหลายคนกลัวที่จะพูดคุยกับเขา ทำให้ตัว จาเร็ด เลโต้ เอง เขาสู่สภาวะคล้ายกับตัวละครโจ๊กเกอร์คือ แยกตัวออกจากสังคม และความโดดเดี่ยวตรงนั้นทำให้ตัวละครน่ากลัวยิ่งขึ้น และนั่นอาจจะหมายถึงประสบการณ์การแสดงที่เจ็บปวดที่จาเร็ดได้บอกไปนั่นเอง
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/Km5Fi3
เมื่อมองย้อนกลับไปดูบรรดานักแสดงที่เคยรับบท “โจ๊กเกอร์” เราจะพบถึงพฤติกรรมแปลกๆ หรืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในระหว่างที่รับบทนั้นด้วย อาทิ ในปี 1966 ซีซาร์ โรเมโร่ นักแสดงผู้รับบทโจ๊กเกอร์ในทีวีซีรี่ย์มักเดิน
ออกจากฉากด้วยความงุนงงและไม่แน่ใจในตัวของตัวเอง พร้อมกับมีอาการปวดหัวเกิดขึ้นเมื่อเขาเข้าฉาก ซึ่งเขาบอกว่าเมื่อมองย้อนกลับไปแล้วมันเหมือนเป็นสงครามระหว่างตัวเขาและโจ๊กเกอร์
ในปี 1989 เมื่อ ทิม เบอร์ตัน หันมากำกับ Batman และได้ แจ๊ค นิโคลสัน มารับบทโจ๊กเกอร์ บทบาทนั้นทำให้เขาดำดิ่งสู่ด้านมืดของมนุษย์ และเพลิดเพลินไปกับอิสระในการฆ่าฟันและทำร้ายผู้คนเพียงเพื่อความระทึกใจ หลังจากรับ
บทได้สักพัก แจ๊ค นิโคลสัน ก็เริ่มบอกให้ทีมงานรับรู้ถึงอาการกระสับกระส่ายและอาการนอนไม่หลับของเขา ความเครียดที่เกิดขึ้นจากบทโจ๊กเกอร์กัดกินชีวิตเขามากเท่าไหร่ และแม้ว่ามันจะเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม แต่แจ๊คก็มักจะพูดถึงอิทธิพลที่ตัวละครส่งผลต่อจิตใจของเขาด้วย
แม้แต่ มาร์ค แฮมิล นักแสดงผู้พากย์เสียงโจ๊กเกอร์ในแอนิเมชั่นก็มีอาการนอนไม่หลับและเครียดเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน และปิดท้ายด้วยนักแสดงที่ฝีมือเป็นที่ประจักษ์แต่น่าเสียดายที่เขาต้องจากไปก่อนวัยอันควรอย่าง ฮีธ เลดเจอร์ นัก
แสดงดีกรีออสการ์จากบทบาทโจ๊กเกอร์ใน The Dark Knight กำกับโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน นั่นเอง โดยในช่วงจังหวะชีวิตที่ ฮีธ ได้รับบทบาทนี้เป็นช่วงที่เขาเพิ่งเลิกกับ มิเชล วิลเลี่ยมส์ และต้องแยกกับ มาทิลด้า ลูกสาวของเขาพอดี และเขายังเคยพูดถึงตัวละครโจ๊กเกอร์ไว้ว่า “โจ๊กเกอร์คือตัวตลกวิกลจริตที่ฆ่าคนมหาศาล และไร้ซึ่งการเห็นใจผู้อื่น”
ขอบคุณเครดิตรูปภาพ : https://goo.gl/6AxrZZ
เมื่อเริ่มถ่ายทำ เพื่อนนักแสดงหลายคนเริ่มสังเกตได้ถึงการเข้าครอบงำของโจ๊กเกอร์ที่มีผลต่อตัวนักแสดง ฮีธไม่สามารถถอดคาแรกเตอร์ระหว่างอยู่ในกองถ่ายได้ พวกเขาเปรียบเทียบเขากับแดเนียล เดย์ ลูอิส ที่มีเทคนิคในการเข้า
ถึงตัวละคร ทว่าแดเนียล เดย์ ลูอิส นั้นไม่เคยต้องรับบทคนวิกลจริตอย่างโจ๊กเกอร์ ถ้าหากว่าหนังของเบอร์ติน เป็นการ “ปลดปล่อย” ด้านมืด หนังของโนแลนคือการ “ขุดลึก” เข้าไปในจิตใจอันมืดมิดของตัวละคร และถ่ายทอด
ฝันร้ายออกมา ระหว่างการถ่ายทำ ฮีธต้องเข้าพบแพทย์หลายคนและได้รับการรักษาด้วยยาหลายขนาน และท้ายที่สุดเขาเสียชีวิตในอพาร์ตเมนท์ของเขาเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2008 ที่ผ่านมา 6 เดือนก่อนหนังจะเข้าฉายจริงนั่นเอง พ่อของเขาพบไดอารี่ที่ฮีธสะสมเรื่องราวของโจ๊กเกอร์เอาไว้ ตั้งแต่ภาพของไฮยีน่า, ภาพจากคอมิก และในหน้าสุดท้ายปรากฏคำว่า “Bye Bye” เขียนด้วยตัวหนาเอาไว้ด้วย เมื่อแจ๊ค นิโคลสันทราบข่าว